Category ข่าววันนี้

เอ๊ะ จิรากร ถูกลูกค้าต่อย

เจ้าของร้านเล่านาที เอ๊ะ จิรากร ถูกลูกค้าต่อย ยันมีการ์ดดูแล แต่เหตุเกิดขึ้นเร็วมาก

เจ้าของร้านเล่านาที “เอ๊ะ จิรากร” ถูกลูกค้า ต่อยหน้า ยันมีการ์ดดูแล แต่มันเกิดขึ้นเร็วมาก ล่าสุดรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว

จากกรณีคลิปไวรัล เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์ ศิลปินชายหนุ่ม มีชื่อ วัย 45 ปี เจ้าของ เพลงฮิต จากนี้ไปจนนิรันดร์, ใจกลางความรู้สึกดีดี, ระหว่างเราสองคน อื่น ๆ อีกมากมาย ถูกแฟนเพลง บุกต่อยขณะขึ้น แสดงดนตรีในผับ กระทั่งกลายเป็น ประเด็นร้อน ที่มีชาวเน็ตออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ กันสนั่นโลกโชเชียลฯ

เอ๊ะ จิรากร เจ้าของร้านเล่า

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. (5 กุมภาพันธ์66)

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณ ร้านค้า Walk in 88 เลขที่ 57/5 ซอกซอยรังสิต-นครนายก 67 ถนนเลียบคลองสาม ต.ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบกับ นายพัฒนชัย ลำกะ อายุ 45 ปี เถ้าแก่ พร้อมกับเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ.

ทางร้านได้มีการจัดคอนเสิร์ตของ คุณเอ๊ะ จิรากร ซึ่งทางคุณเอ๊ะ ได้ขึ้นไปร้องเพลง ประมาณก่อนเที่ยงคืน ซึ่งทางคุณเอ๊ะ ก็ได้แสดงไปตามปกติ โดยมีชายเสื้อขาว ซึ่งก่อนที่จะขึ้นไปทำร้าย คุณเอ๊ะนั้น ชายดังกล่าวได้ถือเครื่องดื่ม ที่เป็นแก้วช็อต แล้วได้มากิน ข้างหน้าเวทีกับคุณเอ๊ะ

จากนั้นเขา ก็เดินไปแล้วก็เดินกลับมาอีกรอบ ซึ่งทางการ์ด ก็เห็นแล้วว่าชายคนนี้ เคยเดินถือแก้ว ไปดื่มกับคุณเอ๊ะแล้ว ครั้งสองครั้ง การ์ดก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องระวังชายคนนี้

แต่จังหวะ ที่เขาเดินมาแล้วจู่ ๆ ก็เดินก้าวขึ้นเวทีไปเลย ซึ่งทางร้านก็มีระบบ รักษาความปลอดภัย ราวกับที่ตน ได้คุยกับทางการ์ด ไว้แล้ว คือลูกค้าหรือคนดูไม่สามารถ ขึ้นไปบนเวทีได้ ซึ่งทางการ์ดมองเห็น จึงได้เดินไปกัน ตัวออกมา จังหวะที่ดึงตัวลงมา คงมีอารมณ์โกรธ จึงได้ผลักการ์ด แล้วหันไปต่อยคุณเอ๊ะเลย โดยกลุ่มชายดังกล่าว มาด้วยกันทั้งหมด ประมาณ 8-9 คน โดยกลุ่มชายดังกล่าว ไม่ใช่ลูกค้าประจำที่ร้าน แต่จองผ่านเพจมา แล้วเวลาเขาเข้ามา ไม่ได้มาทีเดียว 8-9 คน

เอ๊ะ โพสต์

แต่เดินทางมา ทีละคนสองคน ทยอยกันเข้ามา

โดยทางคุณเอ๊ะ ร้องไปประมาณ 3-4 เพลง พอเพลงที่ 3 ก็เห็นว่าชายดังกล่าวเดิน เอาเครื่องดื่มไปชนกับคุณเอ๊ะแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ทางร้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ทันทีเลย

แต่เนื่องจากว่าวันนั้นคนในร้านมากมาก ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุ ก็อาศัยช่วงที่โกลาหลแอบหนีไปอย่างรวดเร็วทันใจ โดยมีลูกน้อง ที่ร้านตามออกไป

แต่เขาก็ขับรถไปเร็วมาก จึงทำให้ตามไม่ทัน จากนั้นตำรวจก็เข้ามาถึงแล้วก็ เข้าเคลียร์พื้นที่มาจัดการ ภายในร้าน มาสอบถามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นได้ทำการนัดหมาย ไว้ว่าวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.

ทางผมจะเดินทางไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับลูกค้า คนนี้ให้ถึงที่สุด ด้วยเหตุว่า ทางร้านเปิดมา 6 ปี จัดคอนเสิร์ตมาแล้ว 20-30 ศิลปินแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ส่วนทางด้านคุณเอ๊ะ ได้รับบาดเจ็บบริเวณ กกหูด้านซ้าย เป็นรอยแดง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่เขาเหวียงแขน ไปโดน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตัวผมเองก็เดินเข้าไปพบคุณเอ๊ะ ที่ห้องรับรองเลย เนื่องจากว่าตอนที่เกิดเหตุ ผมเองไม่ได้อยู่บริเวณนั้น แต่เดินอยู่รอบ ๆ ร้าน

แล้วมีเด็กวิ่งมาบอก ผมจึงได้เดินตามเข้าไปหาคุณเอ๊ะ ที่ห้องรับรองศิลปิน ไปถาม เหตุการณ์และขออภัยเขา ซึ่งเหตุการณ์ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ซึ่งตอนนี้ทางร้านรู้ชื่อลูกค้า คนดังกล่าวแล้ว อีกทั้งชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ทั้งหมดแล้ว

เอ๊ะ จิรากร นาทีโดน

“เอ๊ะ จิรากร” เคลื่อนไหวแล้ว หลังถูกแฟนเพลงบุกต่อยกลางการแสดงดนตรี

ต่อเนื่องจากกรณี คลิปไวรัล เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์ ศิลปินหนุ่มโด่งดัง วัย 45 ปี เจ้าของเพลงได้รับความนิยม จากนี้ไปจนนิรันดร์, ใจกลางความรู้สึกดีดี, ระหว่างเราสองคน ฯลฯ ถูกแฟนเพลงบุกต่อยขณะขึ้นคอนเสิร์ตในผับ จนถึงกลายเป็นประเด็นร้อน ที่มีชาวเน็ตออกมาวิพากษ์ วิจารณ์กันสนั่นโลกโชเชียลฯ

กระทั่งล่าสุด ทางด้าน เอ๊ะ จิรากรก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว เป็นครั้งแรก โดยเป็นการใช้พื้นที่บนเฟซบุ๊ก @Ae Jirakorn โพสต์ข้อความกล่าวถึงการให้เกียรติ รวมทั้งขอบคุณแฟนคลับแล้วก็ทุกๆคน ที่ส่งกำลังใจและความเป็นห่วงมาให้กับตัวเองในช่วงที่ผ่านมา

“รักในผลงาน รักในตัวศิลปิน เราทุกคนก็ควรให้เกียรติกันนะครับ ขอบคุณทุกความห่วงใยของทุกคนนะครับ ช่วงนี้นักร้องโดนกันเยอะจริง ๆ”

จิรากร สมพิทักษ์ หรือเอ๊ะ จิรากรเป็นนักร้องไกด์ ให้แก่ศิลปินดัง ๆ หลายคน ทั้งยังยังเป็นนักร้องนำวง Nothing To Lose และก็ได้เซ็นสัญญา เป็นศิลปินในสังกัด WE records ของเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เมื่อปี พ.ศ. 2554 หลังจากนั้นออกซิงเกิ้ล เพลง “ไม่มีตรงกลาง” รวมทั้งเพลง “จากนี้ไปจนนิรันดร์” ในอัลบั้ม Project Love Pill ซึ่งเป็นผลงานเพลงที่ทำให้เป็นที่รู้จัก

เป็นชาวอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ศึกษาที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จนเรียนจบ ทำวงเล่นตามผับ และก็ทำเพลงใต้ดิน แต่ไม่ได้มีผลงานออกมาสู่สาธารณชน รวมทั้งได้เข้ามาทำงาน กับค่ายเพลงใต้ดิน ซึ่งมีวง Dezember กับ Heretic angle เป็นวงหลัก

ต่อจากนั้น เข้ามาเป็นศิลปินฝึก สังกัดอัปจี ในเครือแกรมมี่ และช่วยทำเพลง วงโปเตโต้ ด้วยในชุดรีเฟรช

และก็ได้รู้จักกับ ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม ที่ชักชวน ไปเป็นนักร้องไกด์เพลง จนถึงได้ร้องเพลง เพลงแรกคือ “ไม่มีตรงกลาง” หนึ่งในเพลงในอัลบั้ม Project Love Pill กระทั่งได้มาทำอัลบั้มชุดแรก ใจกลางความรู้สึกดีดี ออกในปี 2555

ปัจจุบันนี้กลับมาโด่งดังอีกครั้ง หลังถอดหน้ากากอีกาเหล็ก ในรายการ The Mask Singer สังกัดศิลปินค่าย แกรนด์มิวสิก ผู้ครอบครองเพลง “ตราบที่ยังหายใจ” ด้านครอบครัวแต่งงานรวมทั้งมีลูก 3 คน

เบลล่า เคลียร์ประเด็น

อุ๊ย! "เบลล่า ราณี" ว่ายังไงบ้าง เจอซิลิโคลนเถื่อนแอบอ้างตั้งชื่อ ทรงเบลล่า?

เบลล่า ได้ได้โอกาสออกมาเคลียร์ประเด็นร้อนกับสื่อมวลชนในงาน แว่นท็อปเจริญ โครงการแว่นสายตาเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ สำหรับ นางเอกซุปตาร์ ราณี แคมเปน ภายหลังมีกระแสข่าวกรณี ซิลิโคนเถื่อน ใช้ชื่อเจ้าตัวไปแอบอ้างในประมาณว่า ทรงเบลล่า กระทั่งก่อกำเนิดความเข้าใจผิดในหมู่คนทำศัลยกรรม

ซึ่งนอกเหนือจากนางเอกสาวจะออกมากล่าวถึงความรู้สึกเกี่ยวกับประเด็นนี้ ให้บรรดาสื่อมวลชนได้ฟังแล้ว เจ้าตัว ก็ยังอัปเดตแพลนฉลองวาเลนไทน์ปี 2566 อีกด้วย

เบลล่า Y2K

เบลล่า บริจาคเงิน 100,000 บาท ให้กับโรงเรียน ?

นานแล้วนะคะ คือ ถ้าหากใครบอกบุญมา มีโอกาสก็ทำค่ะ แต่ว่าสำหรับยอดนี้ เบล ทำให้โรงเรียนคุณแม่ ซึ่งน้องๆเขายังไม่มีสนามฟุตซอล เบล ก็เลยเหมือนเป็นเจ้าภาพ (ยิ้ม) คือ ถ้าหากเบลมีกำลังช่วยได้ เบลก็จะช่วยเท่าที่มีกำลัง จริงๆ มันเป็นเหมือนจุดหมายของเบลด้วยแหละ เรา มีทรัพย์ เรา ก็ส่งต่อช่วยเหลือคนอื่นๆ วัด โรงพยาบาล โรงเรียน ต่างๆ เท่าที่มีโอกาส ทำแล้วสบายใจค่ะ

โรงงานซิลิโคน เอาชื่อเราติดหน้ากล่อง และก็ เป็นซิลิโคนที่ไม่ถูกกฎหมาย ซิลิโคนทรงเบลล่า ?

อุ๊ย ต้องดูกันดีๆนะ ถ้าหากจะทำศัลยกรรม เรา ต้องดูสถานที่ให้ปลอดภัย คือ… การทำให้ตัวเองสวยขึ้นไม่ผิดนะคะ แต่เราจำเป็นต้องเช็กให้ดีๆด้วย เพราะเหตุว่า มันคือเรื่องของความปลอดภัย

มีชื่อเราไปเอี่ยวแบบนี้ ซีเรียสไหม ?

ยังไม่เห็นข่าวสารเลยคะ แต่ว่าถือว่าเป็นคำชมละกันค่ะ (หัวเราะ) ดูดีๆนะคะ

เราเป็นห่วงไหม เนื่องจากว่า บางเคส ก็มีผลข้างเคียง ?

เป็นกำลังใจให้นะคะ เบลก็ขอให้หายไวๆ

รู้สึกยังไงบ้าง ที่มีบางคนเอาหน้าเราไปเป็นแบบทำศัลยกรรม ?

ดีใจค่ะ เบล ถือว่า นั่นเป็นการชื่นชมอย่างหนึ่ง เขา อยากมีหน้าเหมือนเราก็โอเค แต่ที่จริงแล้ว ทุกคน ก็สามารถสวยได้ในแบบของตัวเองค่ะ

รู้สึกอย่างไรบ้าง ที่เราเป็นบล็อกยอดนิยม ?

ขอบคุณค่ะ แต่ก็จะต้องศึกษาข้อมูลดีๆด้วย อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ

วาเลนไทน์ปีนี้ มีแพลนอะไรบ้าง ?

ไม่มีอะไรเลยค่ะ นับได้ว่าเป็นหนึ่งวันทำงาน เป็นวันวันหนึ่ง (ยิ้ม) ก็รอดูละกันค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ว่าไม่เหงาค่ะ คนที่อยู่รอบข้างเติมเต็มความรักได้ดีมากๆอยู่แล้ว ครอบครัว เพื่อนฝูง น้องหมาน้องแมว

โสดเหมือนเดิมไหม ?

โสดค่ะ สนิทค่ะ รอดูดอกไม้ก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)

เบลล่า ทรงเบลล่า

” เบลล่า ” ฉลองวันตรุษจีนกับครอบครัว น่ารักสอนคุณยายโพสท่า Y2K

ถึงจะโสด แต่ว่าบอกเลยว่า นางเอกสาว ราณี แคมเปน ไม่มีเหงา เนื่องจาก ทั้งยังคิวงานที่แน่นทั้งปี แถมยังมีครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง โดยยิ่งไปกว่านั้น แม่ปราณี ที่ตัวติดกับลูกสาวสุดที่รักตลอด

และ ล่าสุด ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน กับภาพสุดอบอุ่นที่ เบลล่า ได้โพสต์ลงลงอินสตาแกรม ภาพที่อยู่พร้อมหน้าคุณแม่ รวมทั้ง ญาติๆ เหมือนเช่นเคย

งานนี้ เบลล่า ยังกมือไหว่งามๆ เนื่องจาก ได้รับซองอั่งเปาด้วย แล้วก็ ความน่ารัก เมื่อ ราณี แคมเปน ได้สอนให้คุณยายทำท่าโพสถ่ายภาพ Y2K ชูสองนิ้วขึ้นมาถ่ายรูปคู่หลานสาวคนสวย เป็นช็อตที่แฟนๆ เห็นแล้วต้องยิ้มตาม

โมเมนต์สุดอบอุ่นของบ้านเบลล่า ที่ช่างน่ารักเอ็นดูจริงๆ

สวยรวย ” เบลล่า ” เผยของขวัญจากแม่เป็นที่ดินริมโขง เรื่องหัวใจไม่โฟกัส

ราณี แคมเปน เผยแม่ซื้อที่ดินริมโขง 3 ไร่ ให้เป็นของขวัญ เรื่องหัวใจไม่โฟกัส ขอตัวเองรวยก่อน

นางเอกสาว ราณี แคมเปน เปิดใจกลางงาน Surprisingly Bata CinderBella ถึงของขวัญที่ดินริมโขง 3 ไร่ ที่แม่ปราณี ซื้อให้ บอกเป็นที่ดินที่เคยดูกับคุณแม่ ไว้นานแล้ว ถือเป็นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หลายๆคน ยกให้เป็นเศรษฐินีด้านที่ดิน เจ้าตัว บอกมีพอประมาณ แต่ว่าไม่ใช่เศรษฐี

“วันเกิดก่อนหน้านี้ ค่อนข้างจะเรียบง่ายค่ะ ไปทำบุญกันกับแฟนคลับ มีฟู้ดทรัคร่วมทานอาหารเบาๆ วันเกิดปีนี้ ไม่ได้ซื้ออะไรเป็นของขวัญให้ตัวเองเลย ในตอนนั้น ได้เดินทางไปญี่ปุ่น ก็ถือว่าเป็นของขวัญ คือ การได้พาคุณแม่ไปเที่ยวค่ะ”

“ของขวัญจากแม่ เป็นที่ดินคุณแม่ซื้อให้อยู่ที่นครพนม พึ่งซื้อเมื่อต้นเดือน แม่จะเซอร์ไพรส์ แต่เบลทราบก่อน เพราะว่า คุณแม่ให้เบลมาเซ็นเอกสาร”

“ที่ดิน เป็นที่ที่เคยไปดูด้วยกันกับแม่ เป็นที่ริมโขง มองดูเอาไว้ว่ามันเหมาะสม ไม่ใหญ่เกิน ไม่เล็กเกินจนไป มูลค่าไม่รู้เลย ด้วยเหตุว่า คุณแม่เป็นคนเก็บเงินทุกบาท ได้เรื่องของการลงทุน รวมทั้ง ทรัพย์สิน”

“ยังไม่ได้คิดเลยว่า จะเอาไปทำอะไร เนื่องจาก ช่วงแรกที่ดูไวตั้งใจไว้ว่า จะซื้อให้เป็นของขวัญให้กับแม่ แต่แม่มาชิงซื้อให้ก่อน ที่ดินไม่ใหญ่ค่ะ ประมาณ 3 ไร่ ไม่ได้เป็นเศรษฐีที่ดินนะคะ แต่คุณแม่จะเป็นคนดูแลทุกๆอย่างให้ ซื้อประกันต่างๆ แม่ดูแลให้หมด”

“บ้านใหม่ เบลซื้อให้แม่หลายปีแล้ว แถบละแวกเดิมค่ะ พึ่งรีโนเวทเสร็จก็เลยได้ฤกษ์ย้าย กว่าจะสวยก็หมดไปเยอะแบบไม่ได้ตั้งใจ เบล ไม่ค่อยชอบบ้านที่ใหญ่มาก ห้องใหญ่สุด คือ ทำเป็นห้องแต่งตัวของเบลเอง ช่วงแรกที่ยังไม่ได้ซื้อบ้าน มีความคิดว่า จะซื้อโกดังไว้เก็บของ”

เรื่องคอมเมนต์ถูกใจแคปชั่นของ มิน พีชญา

“เรา แข่งกับเขาไม่ได้นะ เนื่องจากว่า เขาเป็นเจ้าของหมู่บ้านนะคะ (หัวเราะ) ชื่นชมเขาค่ะ นิสัยดีมีที่ดิน แต่ไม่ให้ใครนะคะ เพียงแค่มีเฉยๆ (ยิ้ม)”

” เวลานี้ ทำงานทุกๆวันเลย เลือกที่ความสุข รวมทั้ง ความสบายใจ ที่สำคัญเบลจำเป็นต้องรวยค่ะ (หัวเราะ)”

“ไม่ได้มีเวลาคุยกับใครเลย เวลานี้ต้องนอนก่อนค่ะ ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเลย ต้องหาเวลาให้ตนเองก่อน “

ขุนพันธ์ 3 ปล่อยพลัง

เอม ภูมิภัทร และ ฟ้า ษริกา ปล่อยพลังความระห่ำใน ขุนพันธ์ 3

นอกจากการเปิดตัวสองเสือร้าย ทั้ง เสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) และก็ เสือดำ (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) ที่จะมาเป็นคู่ปรับคนสำคัญของ ขุนพันธ์ (อนันดา เอเวอริงแฮม) ในภาพยนตร์แอ็กชันฮีโร่ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี ขุนพันธ์ 3 นี้แล้ว อีกสองคนที่สร้างความโดดเด่น และ น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ

ดาราเจนใหม่เรื่อง ขุนพันธ์ 3 ที่มีฝีมือน่าจับตา อย่าง เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ และก็ ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา ที่ถ้ากล่าวถึงผลงานก่อนหน้านี้ของเขา และ เธอ

ขุนพันธ์ 3 เตรียม

ผู้ชม ก็จะคงคุ้นหน้าคุ้นตา แล้วก็ ความสามารถอันหลากหลายของทั้งคู่เป็นอย่างดี

งานนี้ ไม่พ้นสายตาอันเฉียบคมของผู้กำกับมือฉมัง โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่ดึงทั้งคู่มาร่วมโปรเจกต์นี้ เพื่อสร้างสีสันความสนุกสนาน และก็ ทวีคูณความน่าดูยิ่งขึ้นไปอีก และ แน่ๆว่า ภายหลังได้ร่วมงานกันอย่างสมบุกสมบันแล้วก็สามารถตอบโจทย์ของผู้กำกับ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลยทีเดียว

‘เอม’ เป็น Rookie หน้าใหม่ที่น่าสนใจมากๆ ผมต้องการร่วมงานกับน้องอยู่แล้ว เอมมีวิธีแสดงที่ดีมาก เขาแสดงเป็นตัวละคร ‘ทัตเทพ’ ที่เหนือความคาดหวัง เข้ามาเป็นบัดดี้กับ ‘ขุนพันธ์’ ได้ เอมจะมีเหลี่ยมการแสดงที่เรียกว่า ไม่ยอมกัน รับรองว่า ไม่เคยมองเห็นเขาในภาพลักษณ์แบบนี้มาก่อนแน่นอน ส่วนบทของ ‘สาวิตรี’ ที่พวกเราอยากได้ผู้ที่มีความอ่อนโยน

ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแกร่ง ‘ฟ้า’ แสดงดีมาก สวยมาก มีเสน่ห์ สู้แล้วสู้อีก ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลานอย่างไร ก็ฝ่าสุดกำลัง มีความเป็นนางโจรซึ่งต่อสู้ได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ตัวละคร มีการแสดงหลายมิติ ซึ่งฟ้าก็ทำออกมาได้ดี ผู้กำกับเปิดเผยความรู้สึก

ขุนพันธ์ 3 พร้อม

หลังจากที่ เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ ได้ฝากผลงานปรากฏชัดเจนต่อสายตาผู้ชม

ไม่ว่าจะรับบทบาทไหน ก็สามารถเข้าถึงตัวละครได้อยู่หมัด จนคนดูอินตามทุกเรื่อง ทั้งยังภาพยนตร์เรื่อง นคร-สวรรค์ (2562), ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ (2562), One for The Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2565)

และก็ ซีรีส์เรื่อง เด็กใหม่ ซีซัน 2 (2564) แน่นอนว่า เขาก็เลยเปลี่ยนมาเป็นนักแสดงที่น่าสนใจสำหรับบทบาทของ ร้อยเอกทัตเทพ นายทหารเลือดใหม่ อนาคตไกล มือขวาของขุนพันธ์ กับภารกิจล่าสองเสือร้ายอาคมแกร่งกล้า

“ผมตัดสินใจเล่น เพราะ โปรเจกต์นี้ทั้งหมด ผม รู้สึกว่า โปรเจกต์นี้ มันน่าสนใจ ผมเองจากที่ได้ดู ‘ขุนพันธ์’ มาสองภาคแล้ว ผม มีความคิดว่า ไม่มีใครทำแบบพี่โขมได้ และ ไม่มีงานไหนที่เหมือนขุนพันธ์ เป็นรสชาติที่ค่อนข้างจะเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ถ้าเกิดขุนพันธ์เป็นแบทแมน ทัตเทพก็เป็นโรบิน เขาเป็นเหมือนคู่หู ช่วยกันทำภารกิจ เพื่อไปปราบสองโจร

ตอนที่ทัตเทพได้เจอขุนพันธ์ครั้งแรก ได้รู้ว่าจำเป็นต้องมาร่วมภารกิจ มันเป็นฝันที่เป็นจริง เขาเติบโตมากับวีรกรรม แล้วก็ เรื่องเล่าของขุนพันธ์ ตั้งแต่เด็กขุนพันธ์ คือ ไอดอล” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ กล่าวถึงความน่าสนใจของบทนี้

ด้าน ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา ที่โชว์ความสามารถการแสดงภาพยนตร์มาแล้วในเรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ (2562) และก็ วอน (เธอ) (2563) ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังโด่งดังจากการเป็นยูทูบเบอร์ด้านแฟชั่น ความงาม และก็ ไลฟ์สไตล์ที่มียอดผู้ติดตามมากยิ่งกว่า 8 แสน บนช่อง @Fahsarika โดยในเรื่อง ขุนพันธ์ 3 นี้ จะเป็นการพลิกบทบาทมาแสดงแอ็กชันเป็นครั้งแรกด้วยกับบท สาวิตรี หมอหญิงในชุมโจร ที่พร้อมจะรักษา รวมทั้ง หยิบปืนมาช่วยทุกชีวิตในเวลาเดียวกัน

“เวลาที่อ่านบท ฟ้า รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ น่าสนใจมาก มีอุดมคติ มีอุดมการณ์ มีความคิดที่ดี แล้วก็ พร้อมสู้ มันเป็นอะไรที่ท้าทาย และ ไม่ได้เจอประสบการณ์อย่างนี้ในชีวิตจริงแน่นอน ทั้งยังอาชีพแพทย์ ทั้งยังในเรื่องสงครามการต่อสู้ แล้ว ‘พี่โขม’ ให้อิสระฟ้าได้ดีไซน์เรื่องคำพูด หรือ ความคิดของตัวละคร ‘สาวิตรี’ น่าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่บู๊ขนาดนี้” นักแสดงหญิงรุ่นใหม่มากความสามารถ เผยถึงบทบาทล่าสุด

การรวมตัวของกลุ่มดาราตัวท็อปหลากหลายเจน ที่จะมาปล่อยพลังการแสดงน่าจับตา แอ็กชันสุดระห่ำ และ เรื่องราวน่าติดตาม ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ ในภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี ขุนพันธ์ 3 นี้ก็สามารถการันตีความน่าดูที่จะมอบ ทั้งยังความเพลิดเพลินสุดเดือด มันส์กระจาย ไม่แพ้ภาคก่อนแน่นอน 2 มี.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์

เรื่องย่อ ขุนพันธ์ 3

ในปีพุทธศักราช 2493 บ้านเมืองได้รับผลกระทบจากสงคราม ชุมโจรเสือร้าย ยังคงชุกชุมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ขุนพันธ์ นายตำรวจมือปราบผู้ยึดมั่นในความถูกต้อง ก็เลยถูกเรียกกลับมาปฏิบัติหน้าที่ล่าตัว 2 เสือร้ายอาคมกล้าที่กำลังฮึกเหิม และก็ ท้าทายอำนาจรัฐ โดยที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงตัวได้ นำไปสู่การหวนเหยียบถิ่นเสืออีกครั้งของขุนพันธ์ ท่ามกลางเหล่าเสือร้ายที่หมายเอาชีวิต และก็ พร้อมพิพากษามือปราบคงกระพันด้วยความตาย

การจับตาย 2 เสือชื่อดังอย่าง เสือมเหศวร แล้วก็ เสือดำ ครั้งนี้ บางทีอาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขุนพันธ์ จะสามารถบรรลุภารกิจท้าทายศรัทธา และ เผชิญหน้าเหล่าเสือร้าย ที่มีทั้งยังอาคม แล้วก็ ความคงกระพันได้หรือไม่….หรือ ถึงเวลาแล้วที่ครั้งนี้ มือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์ จะกลายเป็น “ผู้ถูกล่า” เสียเอง

แสดงนำโดย

อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม รับบท ขุนพันธ์
มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท เสือมเหศวร
ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ รับบท เสือดำ
ษริกา สารทศิลป์ศุภา รับบท สาวิตรี
ภูมิภัทร ถาวรศิริ รับบท ทัตเทพ

ศิลปะ หวังสร้างบุญ

คุยเรื่องเมืองและศิลปะ กับรองผู้ว่าฯ “ศานนท์ หวังสร้างบุญ”

Highlight เทศกาล ศิลปะ Colorful Bangkok 2022 เทศกาลศิลปะ แสงสี แล้วก็ ดนตรีในกรุงเทพฯ จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566 ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ” มีเป้าหมายให้กรุงเทพฯ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมการกระตุ้นยอดจำหน่ายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
ศิลปะไร้พรมแดน และ ครอบคลุม ไปถึงงานสร้างสรรค์ที่หลากหลาย

นั่นเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่กรุงเทพฯ ต้องเก็บรวบรวม และ ทำให้เข้าถึงทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งกรุงเทพฯ จำเป็นต้องให้การส่งเสริม และก็ สร้างความร่วมมืออย่างทั่วถึง พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์งานต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่าง 3 เดือนของเทศกาลอย่างเต็มที่ หัวใจของ “Festival Economy” คือ ยกระดับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวพันกับศิลปะ พร้อมกับ สร้างเศรษฐกิจให้กับเนื้อเมือง หรือ บริเวณต่างๆของกรุงเทพฯ ซึ่งการจัดเทศกาลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตลอดถึงการต่อยอดเศรษฐกิจในด้านต่างๆ

“กรุงเทพมหานคร” นับว่าเป็นเมืองหลวงที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังในด้านอาหาร วัฒนธรรม และ ศิลปะ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสตลอดทั้งปี รวมทั้ง สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทยอย่างมากมายมหาศาล แต่ทว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้เมืองมากสีสันแห่งนี้ เงียบเหงาลงไปอย่างน่าเศร้า การทำให้กรุงเทพฯ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ก็เลยกลายเป็น “เป้าหมายสำคัญ” ของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการคนล่าสุดของกรุงเทพฯ เกิดเป็นเทศกาล “Colorful Bangkok 2022” ที่จัดขึ้นในตอนเดือนพฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566 ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ” มีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เพื่อคนกรุงเทพฯ แล้วก็ นักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการกระตุ้นยอดขายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 เป็นความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รวมทั้ง ประชาชน ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์งานศิลปะ ดนตรี แล้วก็ แสงสี เพื่อทำให้กรุงเทพฯ กลับมามีสีสัน แล้วก็ ชีวิตชีวาอีกรอบ ซึ่งได้มีโอกาสบอกคุยกับ “ศานนท์ หวังสร้างบุญ” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ผู้เป็นกำลังสำคัญของการจัดเทศกาลยิ่งใหญ่ ในช่วงปลายปีคราวนี้

ศิลปะ เทศกาล

กรุงเทพฯ เมืองแห่งสีสัน

“เกิดจากความท้าทายหลายอย่าง ดังเช่น พวกเรา เพิ่งจะผ่านวิกฤตโควิด-19 เราพึ่งจะเปิดประเทศ เป็นปีแรกที่พวกเราจะได้ลอยกระทง เป็นปีแรกที่เราจะได้ออกมาเจอหน้าคน และ เป็นปีแรกที่จะมีนักท่องเที่ยวเกิน 10 ล้านคน ผม มีความคิดว่า ทุกคนพร้อมใจอยากจัดอะไรบางอย่าง

เพราะฉะนั้น หน้าที่เมือง คงจะไม่ใช่คนที่มาจัดอีกคนหนึ่ง แต่หน้าที่ของเมือง อาจจะเป็นคนอำนวยความสะดวกมากกว่า เป็นคนดึงคนซ้ายมาเจอคนขวา ดึงคนหน้ามาเจอคนหลัง ดึงคนที่เก่งด้านไฟมาเจอคนเก่งดนตรี ดึงคนเก่งสถานที่มาเจอคนที่เก่งเรื่องการทำศิลปะ” ศานนท์ เริ่มต้นอธิบาย

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 เป็นเทศกาลศิลปะที่จัดครอบคลุมตลอดทั้ง 3 เดือน ระหว่างพฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566 เพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะ จัดกิจกรรมให้คนกรุงเทพฯ คนจากจังหวัดอื่น และ นักท่องเที่ยว ได้สัมผัสงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ชมแสงไฟตามสถานที่สำคัญทั้งเมือง รวมทั้ง สนุกสนานไปกับดนตรีที่จะจัดขึ้นในสวนสาธารณะของกรุงเทพฯ

ซึ่งถือเป็นการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และก็ มี กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ช่วยเหลือประสานงาน รวมทั้ง ให้การส่งเสริม

“ผมว่า อันนี้เป็นบทบาทของ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเราก็ทำอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคม มกราคม เรา มั่นใจว่า 3 เดือนนี้เป็น 3 เดือนที่สำคัญที่สุดของปี 2022 จนไปถึงต้นปี 2023 เพราะว่า เป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อที่พวกเราต้องดึงนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด แข่งกับเมืองอื่น

เพราะ กรุงเทพฯ พวกเรา มีอะไรที่มีชีวิตชีวา รวมทั้ง อาจไม่มีตอนไหนที่เมืองจะมีสีสันได้เท่าตอน 3 เดือนนี้แล้ว” ศานนท์ กล่าว

ศิลปะ คุยเรื่อง

ศิลปะ เชื่อมคน เชื่อมเมือง

ศิลปะไร้พรมแดน และก็ ครอบคลุม ไปถึงงานสร้างสรรค์ที่หลากหลาย อย่างเช่น จิตรกรรม กราฟิตี้ ร้องเพลง เต้นรำ ฯลฯ ซึ่งความหลากหลายของงานศิลปะนี้เอง ที่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่กรุงเทพฯ ต้องรวบรวม และ ทำให้เข้าถึงทุกคนอย่างแท้จริง

ซึ่งศานนท์ ระบุว่า กรุงเทพฯ จำเป็นจะต้องต้องให้การสนับสนุน รวมทั้ง สร้างความร่วมมืออย่างทั่วถึง พร้อมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์งานต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 3 เดือนของเทศกาลอย่างเต็มที่

“ศิลปะกว้าง เพียงพอที่จะห่อหุ้มทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น แล้วเราก็เชื่อว่า ต้องมีสักเดือนที่พวกเรา ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็น soft power พวกเรา พูดถึงอะไรที่จับต้องได้มาเยอะ แต่ว่าบางทีศิลปะ ก็เป็นเรื่องที่จับต้องได้ยาก

เราในฐานะเมือง พวกเรา จึงต้องดึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มาเป็นธีมให้ได้ แล้วมันก็บางทีอาจจะเป็นจิตวิญญาณของหลายคน ผมมีความรู้สึกว่า คนที่ขับเคลื่อนด้วยศิลปะมีเยอะแยะมาก และ สังคมก็ขับเคลื่อนด้วยการอยู่กันแบบนี้

ด้วยเหตุนั้น เมืองไม่ใช่สิ่งก่อสร้าง แต่เมืองคือผู้คน ผู้คนขับเคลื่อน และก็ มีจิตวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยศิลปะ แล้วก็ ศิลปะก็เป็นส่วนหนึ่งที่พวกเราต้องขับเคลื่อน รวมทั้ง ส่งเสริม” ศานนท์ ชี้

ศิลปะ เพื่อเศรษฐกิจของเมือง

“ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปากท้องต้องเดินตลอด เทศกาลอะไรแบบนี้ ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น รวมทั้ง มันจะทิ้งคำถามบางอย่างเอาไว้มากกว่า อย่างตอนที่พวกเราจัดกรุงเทพกลางแปลง มันก็ทิ้งคำถามว่า แล้วอุตสาหกรรมภาพยนตร์ปัจจุบันนี้ เป็นอย่างไร

พอพวกเรามองเห็นข้อนี้ เรา ก็เอางานเทศกาลมาจุดประกาย เรา เอางานเทศกาลมาทำให้คนเห็นว่า มันมีรูปแบบของการดูหนังแบบนี้ด้วย ผมว่า ก็คล้ายกัน Colorful Bangkok 2022 อาจจะเป็นตัวจุดประกายให้อุตสาหกรรมสตรีทอาร์ต อุตสาหกรรมละคร อุตสาหกรรมเทศกาลศิลปะชุมชน” ศานนท์ ระบุ

นอกเหนือจากการ “จุดประกาย” คำถามต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยงกับงานศิลปะ และก็ ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์แล้ว กรุงเทพมหานคร ก็วางเป้าที่จะยกระดับอุตสาหกรรมนั้นๆ พร้อมทั้งสร้างเศรษฐกิจให้กับเนื้อเมือง หรือ บริเวณต่างๆของกรุงเทพฯ

ซึ่งการจัดเทศกาลที่เกิดขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตลอดถึงการต่อยอดเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นหัวใจของ“Festival Economy” ที่ต้องเดินต่อไป

“พวกเรา คงไม่หยุดระดับเมือง เรา ต้องไประดับนานาชาติ แล้วพวกเราต้องไปในระดับโลก ผมว่า พวกเราต้องวางเป้าแบบนั้น ผมรู้สึกว่า กรุงเทพฯ มีความสามารถสูงมาก พวกเรา เชื่อเหลือเกินว่า ปีหน้า หรือ ปีต่อไป ยังไงพวกเราต้องเป็นระดับโลก เรา ต้องปักหมุดให้ทั้งโลกต้องมากรุงเทพฯ มันต้องเกิดขึ้นแน่” ศานนท์ กล่าวปิดท้าย

แดนนี่ โหนกระแส

แดนนี่ บ้านโยก รับผิดแย่งไมค์ ขอแบบไม่ได้ขอ พอจบรายการลำบากถึง แจ๊ส ชวนชื่น

แดนนี่ จากกรณี คลิปสุดร้อน ในโลกโซเชียลมีเดีย ที่ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ Wanchai Pokpon ได้โพสต์เล่า เหตุการณ์ ถูกชายหนุ่ม คนหนึ่ง ซึ่งใส่เสื้อฮู้ดสีดำ ขึ้นมาแย่งไมค์

นักร้อง ของวง ขณะกำลัง ทำการแสดง ในร้านอาหาร แห่งหนึ่ง และยังไปแย่งเอาเบส มาเล่นบนเวที ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรง มีการด่าหนุ่มในคลิปว่า ไม่มีมารยาท และ

กลายเป็น ประเด็นถกเถียง รุนแรงขึ้นอีก เมื่อหนุ่มในคลิป ออกมาอัดคลิปลง TikTok โต้ตอบชาวเน็ต ที่เข้ามาด่า บอกว่าผู้ที่ตามด่าตนและเพื่อนๆ มีมารยาทมากนักหรือ? มีอะไรก็ให้มาบอกกับตนคนเดียว เพื่อนคนอื่นๆไม่ได้เกี่ยวด้วย

แดนนี่ แย่งไมค์
ล่าสุด รายการโหนกระแส เชิญทั้งสองฝ่ายมาบอกคุยถึงประเด็นร้อนแรงในรายการ

โดยทางวง เล่าเหตุการณ์ว่า ไปเล่นดนตรี ในผับแห่งหนึ่ง ที่แก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ จู่ๆพี่ผู้ชาย ในคลิปก็เดินขึ้นเวที แบบไม่บอกไม่กล่าว มาดึงไมค์ไปจากมือ บอกให้ตน อยู่เฉยๆ

และเอาไมค์ไปร้องเพลงแบบในคลิป หลังจากร้องจบ ยังไปถาม นักดนตรีในวงว่า เล่นเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม ก่อนที่จะบอกให้เล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร และมาเอาเบส จากมือเบสไปเล่น แถมยังเล่นผิดคีย์ กระทั่งทำให้นักร้อง ร้องตามเพลงไม่ได้

แดนนี่ร้องเพลง

ในขณะที่ แดนนี่ RS บ้านโยก หนุ่มแย่งไมค์ ยอมรับผิดว่า ในวันเกิดเหตุ ตนดื่มกระทั่งเมา ด้วยความที่ เคยเล่นดนตรี เคยร้องเพลงอยู่ที่ร้านของตนเอง

มาก่อน พอทางวง เล่นเพลงที่ชอบ ก็เลยขอขึ้นไปร้อง แต่ว่าก็ยอมรับว่าเป็นการ “ขอแบบไม่ได้ขอ” ส่วนเรื่องเล่นเบส แดนนี่เล่าว่า ตนไปถาม นักดนตรีว่าเลยเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม เขาก็

พูดว่าเล่นไม่ได้ สุดท้ายถามว่าเล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร ได้ไหม ทางวงพูดว่าเล่นได้ ก็เลยเดินไปขอมือเบสว่า “ขอยืมเบสหน่อย” ยืนยันว่าบอกดีๆโค้งหัวให้ด้วย ซึ่งก็ยอมรับว่าตอนที่เล่นเบส เล่นผิดคีย์จริงๆ

แดนนี่ ขอโทษ

แดนนี่ บอกอีกว่า

หลังจากจบเหตุการณ์ ในวันดังกล่าว ทางวงเขา ไปโพสต์ต่อว่า ว่าตนไม่มีมารยาท มีชาวเน็ตหลายๆคนเข้ามาด่าตน ด่าทอถึงพ่อถึงแม่ หลายๆคนลามไปทักหาเพื่อนตน บอกให้เลิกคบ คนอย่างตน ทำให้ตนโมโห ทำคลิปออกมาโต้กลับอย่างที่ทุกคนมองเห็น ก็ยอมรับว่า ใช้คำพูดที่ไม่ดี แต่ด้วยความที่โกรธก็เลยทำไปแบบนั้น

แดนนี่ออกรายการ

แต่ว่าภายหลังกล่าวคุยกันในรายการ ทั้งสองฝ่าย ต่างก็เคลียร์กันจนกระทั่งเข้าใจ กล่าวว่าจะไม่ไปแจ้งความ
ฟ้องร้องอะไรกันอีก มีการขอโทษ ขอโพย กันด้วยดี ในขณะที่ หนุ่ม กรรชัย ยังตบท้ายในรายการ ฝากถึง ทีมงาน JOKER Family ของ แจ๊ส ชวนชื่น
บอล เชิญยิ้ม และ นุ้ย เชิญยิ้ม ขอให้ทำการคัฟเวอร์เหตุการณ์ในคลิปให้ดูหน่อย เพราะว่ารอดูอยู่

ขอโทษทุกคน

หนุ่ม กรรชัย กับเรื่องเดียวที่ขอ… หลังจากจบดราม่าแย่งไมค์นักร้อง แจ๊ส-บอล-นุ้ย รับเรื่องด่วน !

เป็นดราม่า ที่ถูกเอ่ยถึง ในโลกอินเตอร์เน็ตไม่น้อยก่อนหน้านี้ กรณีหนุ่มเมา แย่งไมค์นักร้อง – ขอเบสนักดนตรี มาเล่นโชว์ ซึ่งถูกชาวโซเชียล ซัดเรื่อง
มารยาท ก่อนเจ้าตัว จะมีการโต้ตอบกับชาวเน็ต จนถึงมีประเด็นต่อ ก่อนจะออกมา เปิดใจเคลียร์ประเด็นนี้กัน ในรายการ โหนกระแส วันที่ 23 ม.ค. 2566 ซึ่งทั้งหนุ่มแย่งไมค์และทางวงก็ได้ขอโทษขอโพยกันและกันไปเป็นที่เรียบร้อย

โดยหลังจากจบเรื่องดังกล่าว หนุ่ม กรรชัย พิธีกรดัง ก็ได้กล่าวในช่วงท้ายของรายการว่า “สิ่งที่หวัง สำหรับเรื่องนี้ ไม่ได้หวังอะไรนะฮะ
หวังอย่างเดียวนะครับ อยากให้แจ๊ส ชวนชื่น โคฟเวอร์ เหตุการณ์นี้ หน่อยนะครับ พี่รอดูอยู่ บอล เชิญยิ้ม นะครับ ทุกคน คุณนุ้ย หลายๆท่านนะ ผมตามดูอยู่นะ”

งานนี้ทำเอาหลายๆคนอดจับตาไม่ได้ ขณะที่ บอล เชิญยิ้ม ก็ได้แชร์ ข้อความดังกล่าว ของ หนุ่ม กรรชัย พร้อมข้อความว่า “ได้ครับพี่หนุ่ม จัดให้ครับผม” ซึ่งแฟนๆต่างก็บอก เป็นเสียงเดียวกันว่า รอชมเลย !

ดีเอสไอ ชูวิทย์

ชูวิทย์ เปิดเอกสารลับ ใครเป็นผู้ริเริ่มเรื่องฉาว บ้านกงสุลนาอูรู ปลอม

ชูวิทย์เปิดเอกสารลับ ดีเอสไอ กับ ตำรวจ ใครเป็นคนที่เริ่มเรื่องฉาว บ้านกงสุลนาอูรูปลอม ที่สาทร วันที่ 19 มกราคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองมีชื่อเสียง โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเอกสารลับ ดีเอสไอ มีเนื้อหาดังนี้

ผู้คนสงสัย ว่างานนี้เริ่มจากไหน? ระหว่างดีเอสไอ กับตำรวจ ใครเป็นผู้เริ่มเรื่องฉาว ที่บ้านกงสุลนาอูรูปลอม ที่สาทร เพราะเหตุว่ากลายเป็นเรื่องแผลงฤทธิ์ของจีนเทา ตบท้ายมีการ อมเงินของกลาง แล้วก็ปล่อยตัวจีนเทาไป โดยมีเงินตกหล่นไปเกือบ 10 ล้าน ผมได้นำคลิปเปิดเผย ให้เห็นเสมือนหนึ่งนั่งอยู่ในเหตุการณ์

หลังจากนั้นมีการโยน กันไปมา ระหว่างดีเอสไอ กับตำรวจ เอกสารที่โพสต์เป็น “รายงานลับ ที่หัวหน้าชุดดีเอสไอ ได้รายงานถึงอธิบดี” เพื่อแจกแจงข้อเท็จจริง การตรวจค้น ว่าเงินของกลาง ที่หายไป ตอนยึดไม่ได้ถือว่ามีเท่าไหร่ เอาใส่ถุงแล้วนำส่ง สน.ทุ่งมหาเฆม เลย (โยนความผิดไปให้ตำรวจ 191 เนื่องจากดีเอสไอไม่ได้ขอหมายค้น แต่เป็นตำรวจที่ขอหมายค้น ดีเอสไอยังไม่ได้ลงรับ เป็นคดีพิเศษ ก็เลยไม่มีหน้าที่โดยตรง ไม่ได้เป็นคนตรวจนับ และเซ็นเอกสารการนับเงิน)

ดีเอสไอ แจง

ดีเอสไอ โพสต์
กรณีการขอหมายค้นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ อธิบายว่า

ถ้าหากรอรับเป็นคดีความพิเศษ จะไม่ทันการณ์ ผู้ต้องหาจะหนี จึงได้ประสานตำรวจ 191 เป็นการเร่งด่วน เพื่อขอหมายค้น บ้านดังกล่าว (แสดงว่าเรื่องเริ่มจากดีเอสไอก่อน แล้วก็แทนที่กลัวผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่กลับปล่อยหนีไปหมดเสียเอง) ท่านอธิบดีดีเอสไอ คงดีใจที่ถูกเด้ง เพราะหน่วยงานดีเอสไอ ในระยะหลังมีแต่ข่าวฉาวมาเป็นระยะๆ

คงเป็นเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ มาจากร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างมา ก็เลยไม่มีใครคุมใครได้ แล้วก็แต่ละเรื่อง วงเงินไม่ใช่น้อย แบบเดียวกับ ปปง. ท่านอธิบดีจึง ถูกเด้งเซ่นเรื่องจีนเทาไปอีกคนส่งท้าย

อสส.สั่งฟ้อง ตู้ห่าวกับพวก ทุนจีนสีเทารวม 41 คน ข้อหาค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่ฯ “นารี” อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ตู้ห่าว กับพวกทุนจีนสีเทารวม 41 ราย นำคำฟ้อง 332 หน้ายื่นต่อศาลอาญา กรุงเทพใต้ หลายข้อหาหนัก ค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่-อาชญากรรมข้ามชาติโทษ สูงสุดประหารชีวิต

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดี นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก
จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 66 และ อัยการสูงสุดได้พิจารณา สำนวนการสอบสวนคดี ดังกล่าวแล้ว นั้น

ดีเอสไอจับ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด

ก็เลยได้มีคำสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก รวม 41 ราย ในความผิดฐานร่วมมือ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 แล้วก็ประเภท 4 โดยกระทำการในลักษณะ เป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม, ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจาย ในกลุ่มประชาชน และก็ โดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบ ต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน, ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่าย วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4

โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนแล้วก็โดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน, สมคบคิดโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน รวมทั้งด้วยกันฟอกเงิน, เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายจัดการ ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบคิดกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรง

เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันมีอาวุธปืนรวมทั้งเครื่องกระสุนปืนเอาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ด้วยกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุมัติ, ด้วยกันรับคนต่างด้าวทำงานโดย คนต่างด้าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ให้ทำงาน โดยละเมิดต่อกฎหมาย, ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นอำพราง หรือช่วยด้วยประการใดๆก็ตามให้คนต่างด้าวที่เข้าเมือง โดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

และก็ในวันนี้ (19 มกราคม 2566) เวลา 15.00 น. อัยการสูงสุดได้มอบหมาย ให้สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด นำคำฟ้อง จำนวน 332 หน้า ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี มาส่งฟ้องต่อศาลภายในอายุความตามกฎหมายถัดไป

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

เปิดเปิดเผยว่า น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 ฟ้องนายตู้ห่าวกับพวกรวม 41 ราย ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายจรูญ ธีรนานนท์ รวมทั้งในวันที่ 19 ม.ค.วันนี้สำนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด4 ได้นำคำฟ้องไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลข ย 87 / 2566 จำเลย 23 ราย ส่วนที่เหลือดำเนินการตามกฎหมายเพื่อได้ตัวมาดำเนินคดีต่อไป

รองโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวด้วยว่า โดยมีคำฟ้องรวม 332 หน้าเอกสารท้ายฟ้องอีก 35 แผ่น และก็อัยการสูงสุดได้มีคำสั่ง ที่ 86/66 ตั้งคณะทำงานในการดำเนินคดีถัดไปด้วย ซึ่งคดีนี้ อัยการสูงสุดได้ลงมาช่วยคณะทำงานทำงานทุกวัน หากแม้ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ โดยไม่มีวันหยุดแล้วท่านยังติดตามความคืบหน้าในทุกระยะ และก็ควบคุมการบริหารงานคดีให้เป็นไปตามกำหนดเวลา

ตามกฎหมายได้ทัน สำหรับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดนั้นมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตและก็มีอายุความ 30 ปี.

เรือน้ำมันระเบิด สะเทือน

ส่งทีมใต้น้ำค้นหา ผู้สูญหาย เหตุเรือน้ำมันระเบิด จ.สมุทรสงคราม

กู้ภัยมูลนิธิ สว่างเบญจธรรม ส่งทีมใต้น้ำ เริ่มค้นหา ผู้หายสาบสูญอีก 6 คน เรือน้ำมันระเบิด อย่างตลอด ถึงแม้ในเวลากลางคืน ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ จังหวัดสมุทรสงคราม ยังคงมีการค้นหาผู้หายสาบสูญ อย่างตลอดตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งบนเรือและในแม่น้ำแม่กลอง

เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการยืนยันจาก ชลธี เลาหกรรณวณิช หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม ว่ามีผู้หายสาบสูญ 6 คน โดยมีการแจ้งเพิ่ม หนึ่งคนจากญาติ ที่มาแจ้งติดตามหาคนหายภายหลัง

ตั้งแต่ 17.00 น. ชุดปฏิบัติการ กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม ได้เริ่มส่งชุดค้นหาใต้น้ำชุดแรกลงไปในแม่น้ำแม่กลอง จากนั้นจะมีชุดสลับสับเปลี่ยน โดยการค้นหาจะดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง จากนั้นจะมีการ ประเมินสถานการณ์ อีกทีว่าจะค้นหาต่อหรือหยุดพัก

เรือน้ำมันระเบิด ทะเล

สำหรับรัศมีการค้นหาจะอยู่ที่ 100 เมตรรอบตัวเรือ โดยระดับน้ำลึกประมาณ 7-8 เมตร

ไปติดตามความคืบหน้าล่าสุด จากปฏิบัติการค้นหา ผู้สูญหายกรณีเรือน้ำมันระเบิด ซึ่งมีการค้นหากัน แทบทั้งคืน จาก คุณหนึ่ง พลเศรษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด พื้นที่สมุทรสงคราม สะเทือนไกลหลายกิโลฯ

เกิดเหตุ “เรือน้ำมันขนาดใหญ่” ระเบิด ไฟลุกท่วมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สั่นสะเทือนไกลหลายกิโลเมตร

วันที่ 17 มกราคม 2566 ปภ.จังหวัดสมุทรสงคราม รายงานเหตุด่วน เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. เกิดเหตุ “เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่” ระเบิด เสียงดังสนั่น

จนกระทั่งมีไฟไหม้ควันดำโขมง พิจารณาได้จากระยะไกล ขณะจอดซ่อมอยู่ในพื้นที่ อบต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม แรงระเบิด ส่งผลให้อาคารบ้านเรือน ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ชาวบ้านในพื้นที่ เผย

แรงระเบิดรัศมี กระเทือนไม่ต่ำกว่า 7 กิโล ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจทานสาเหตุ แม้มีความคืบหน้า จะได้รายงานให้รู้ต่อไป

โดยเหตุระเบิดเรือน้ำมัน ชื่อ SMOOTH SEA 22 เกิดขึ้นภายใน อู่ซ่อมเรือ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบราย และก็ยังคงมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง

ดังนี้ กรมเจ้าท่า กล่าวว่า SMOOTH SEA 22 เริ่มใบอนุญาตใช้เรือ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 และหมดอายุใบอนุญาตใช้เรือ วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 โดยเจาะจงประเภท การใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน ที่มีจุดวาบ ไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส ประเภทเรือกลเดินสมุทรเฉพาะเขต เขตการเดินเรือ ลำน้ำและก็สมุทรระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดนราธิวาส

เจ้าท่าฯ ตั้ง กรรมการสอบ เรือน้ำมันระเบิด สรุปใน 10 วัน ล่าสุดเสียชีวิต 3 ราย

กรมเจ้าท่า ตั้งกรรมการสอบเรือน้ำมันระเบิด สรุปใน 10 วัน ตั้งประเด็นอู่ซ่อมเรือบรรทุก วัตถุอันตรายทำตามขั้นตอนหรือไม่ พบเรือมีน้ำมันเตา 30,000 ลิตร น้ำมันดีเซล 2,500 ลิตร ล่าสุดเสียชีวิตเป็น 3 ราย ยืนยันเยียวยา ตามกฎหมาย

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดี กรมเจ้าท่า (กรมเจ้าท่า) เปิดเผยว่า ความคืบหน้า กรณีเหตุเรือน้ำมันสมุธซี 22 ระเบิด ขณะจอดซ่อมบำรุง อยู่ภายในอู่เรือแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 17 มกราคม 2566 ซึ่งล่าสุด สามารถควบคุมเพลิงได้ 100% แล้ว ขณะที่มีผู้ตายเพิ่มเป็น 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 1 ราย

ดังนี้ จากการพิจารณาเรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ทะเบียนเลขที่ 61132750004 นั้น พบว่าได้รับอนุญาต ดำเนินการเมื่อปี 2561 ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ออกคำสั่งปิดอู่เรือที่เกิดเหตุแล้ว

สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันสมุธซี 22 สำรวจในขณะที่เกิดระเบิด พบว่ามีน้ำมันเตา ค้างประมาณ 30,000 ลิตร และน้ำมันดีเซล สำหรับขับเคลื่อนเรือ ค้างอยู่ประมาณ 2,500 ลิตร โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวนขึ้นมาเร่งหาข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พื้นฐานตั้งประเด็นไต่สวน

ดังเช่นว่า การดำเนินการของอู่ต่อเรือ เป็นไปตามกระบวนการ รวมทั้งขั้นตอนความปลอดภัย ที่กำหนดใน การรับเรือบรรทุกสินค้าอันตราย เข้าซ่อมแซมครบบริบรูณ์หรือไม่ รวมถึงมีสาเหตุ ปัจจัยอื่นอีกทั้งด้านนอกแล้วก็ภายในอื่น ๆ เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนบริบูรณ์ทุกประเด็น

ยิ่งไปกว่านี้ กรมเจ้าเห็นจะต้องนำมาตรการ กฎระเบียบ กฎหมาย เกี่ยวกับการอนุญาตอู่ประกอบเรือ การกำกับดูแล และก็เรือบรรทุกสินค้าอันตราย เพื่อทบทวนว่ายังมีประเด็นใด ที่ยังไม่ครอบคลุมหรือไม่ เพื่อดำเนินการแก้ไข เพิ่มเติมต่อไป

สำหรับเรือ มีการประภัยภัย ได้แก่ การประกันแบบ Hull & Machinery หรือ H&M เจ้าของเรือ (ผู้ปฏิบัติการ, ผู้เช่าเรือ) จ่ายเบี้ยประกัน คุ้มครองถึงวันที่ 26 มีนาคม 2566 วงเงิน 60 ล้านบาท
และก็การเข้าเป็นสมาชิกของ P&I Club (Protection and Indemnity Clubs) หรือ การประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองถึงบุคคลที่สาม ผู้ครอบครองเรือ (ผู้ปฏิบัติการเรือ, ผู้เช่าเรือ) เป็นผู้จ่ายเบี้ยประกัน คุ้มครองถึงวันที่ 20 ก.พ. 2566 วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรือระเบิด

ด้าน นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดี กรมเจ้าท่าด้านปลอดภัย

กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้เร่งลงพื้นที่ประมาณ 10 โมงเศษ พบว่าเพลิงยังลุกโชนอยู่ ซึ่งได้มีการตรวจดูข้อมูลเบื้องต้น เพื่อประเมินสถานการณ์ ในการเข้าดำเนินการผจญเพลิง ที่ถูกต้องและก็ปลอดภัย การเกิดระเบิดครั้งแรกทำให้ไฟเผา มีความร้อน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีการระเบิด ตามมาสม่ำเสมอ ซึ่งเกิดจากความร้อน และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ ตื่นตระหนก ในการเข้าดำเนินการ และเกิดกระแสข่าวซุบซิบว่าเรือยังบรรทุกน้ำมันอยู่

ซึ่งจากข้อมูล ยืนยันว่าเรือไม่มีสินค้าที่เป็นน้ำมัน เป็นเรือเปล่าเพื่อตระเตรียมการขึ้นอู่ซ่อมใน 1-2 วันข้างหน้า โดยเหตุนี้ต้องมีการล้าง ระวางก่อนตามขั้นตอน

ขณะที่เรือลำดังกล่าวต่อขึ้นเมื่อ 4-5 ปีก่อน ถือเป็นเรือใหม่ บรรทุก ผลิตภัณฑ์ที่มีจุดวาบไฟ ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส บรรทุกผลิตภัณฑ์ประเภท น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันดิบ ซึ่งมีความไวไฟ จึงมีมาตรการ ที่รัดกุมในการนำเรือขึ้นเพื่อซ่อมแซม

โดยต้องล้างถัง ไล่แก๊สออกจากระวาง จนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิดระเบิดได้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว ก็เลยเป็นข้อสงสัยว่าได้ดำเนินการ ตามขั้นตอนครบถ้วนหรือไม่ โดยกรมเจ้าท่าได้ตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาไต่สวนหาข้อข้อเท็จจริงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยจะสรุปภายใน 10 วัน

พร้อมกันนี้ กรมเจ้าเห็นทีจะเร่งประเมินความเสียหาย ที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ บ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าอยู่ในพื้นที่เพื่อประสานกับทุกส่วน ทั้งยังบริษัทเรือ อู่ บริษัทประกัน จังหวัด ในเรื่องการดูแลความเรียบร้อย รวมทั้งการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ พื้นฐานประเมินมูลค่าประกัน จะครอบคลุมในการทดแทน ความเสียหายผู้ได้รับผลกระทบ

มิสยูนิเวิร์ส 2022 คือ

พูดดีมงลง รวมคำตอบของ "มิสยูนิเวิร์ส 2022" ที่ทำให้ฟาดมงกุฎ 200 ล้านไปครอง

“R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากอเมริกา คือสาวงามผู้คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2022 ครั้งที่ 71 ไปครอบครอง โดยมงกุฎนั้น มีมูลค่าถึง 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สำหรับความสวยของ R’Bonney Gabriel เรียกว่า ไม่ค้านสายตา แต่ก็มีการพูดกันว่า สำหรับการตอบคำถามของเธอนั้น เธอทำได้ดี โดยเฉพาะ ในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นรอบกวาดคะแนนโค้งสุดท้าย ซึ่งพวกเราได้รวบรวมคำตอบของเธอ ตั้งแต่รอบ Top 5 มาจนกระทั่งรอบ Top 3 ก่อนจะประกาศผลของการตัดสิน มาให้ทุกคนได้โอกาสเดินทางสำรวจความคิดเห็นของมิสยูนิเวิร์ส 2022 คนปัจจุบันคนนี้กัน

คำถามในรอบ Top 5 เป็นการตอบคำถามจากการเลือกคำถามของตัวนางงามเอง แล้วก็ มีเวลาตอบ 30 วินาที โดย R’Bonney Gabriel เลือกได้คำถามจาก Mara Martin หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน โดยคำถามคือ Mara Martin : การแข่งขันมิสยูนิเวิร์สก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ได้เปิดโอกาสให้คุณแม่ แล้วก็ หญิงที่สมรสแล้ว เข้าแข่งขันได้ อะไรเป็นความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่คุณต้องการมองเห็น แล้วก็ เพราะอะไร

R’Bonney Gabriel : เรื่องอายุนางงาม สิ่งที่เป็นโค้ดเด็ดของฉัน คือ “ถ้าเกิดไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน” อายุไม่ได้เป็นตัวกำหนด เราต้องลงมือทำในตอนนี้ ไม่ต้องรอสำหรับคำถามในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นคำถามจากองค์กรนางงามจักรวาล แล้วก็ ใช้คำถามเดียวกันกับนางงามผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย โดยแต่ละคนมีเวลาตอบคำถาม 30 วินาที (ไม่รวมล่าม ถ้าหากเลือกใช้ล่าม) ซึ่ง R’Bonney Gabriel เธอนั้น ก็ตอบคำถามได้เยี่ยมอีกเหมือนกัน

คำถาม : ถ้าได้รับตำแหน่ง MU 2022 ในปีนี้ คุณจะทำงานอย่างไร เพื่อส่งเสริมพลังอำนาจขององค์กรนางงามจักรวาล และ ความก้าวหน้าขององค์กรฯ

มิสยูนิเวิร์ส 2022 น้ำตาล

“น้ำตาล ชลิตา” โพสต์ถึง “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ภายหลังตกรอบมิสยูนิเวิร์ส2022

“แอนนา เสืองามเอี่ยม ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามของเมืองไทย เข้าร่วมประกวด Miss Universe 2022 แม้สุดท้าย เธอจะพลาดไม่ผ่านเข้ารอบการประกวด แต่ว่าทุกคนคงจะเห็นแล้วว่า เธอตั้งใจ มุ่งมั่น รวมทั้ง เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ตลอดมานั่น จึงพูดได้ว่า เธอทำดีที่สุดแล้ว

“น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามเมืองไทย สำหรับในการแข่งขันมิสยูนิเวิร์ส 2016 รวมทั้ง เธอก็สามารถผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย นั่นก็เท่ากับว่า เธอเป็นนางงามรุ่นพี่ของแอนนา

ถึงแม้ก่อนประกวดรอบตัดสินเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดกระแสดราม่าขึ้น เนื่องจากว่า น้ำตาล ได้มีการโพสต์ข้อความคาดการณ์ Top 5 ของเวที Miss Universe 2022 กลับไม่มีชื่อของแอนนา นั่นก็เลยให้ชาวโซเชียลเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก และก็

ถัดมา น้ำตาล ก็ออกมาโพสต์จัดการประเด็นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด น้ำตาล ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “น้องเก่งมาก น้องทำหน้าที่ตัวแทนได้ดีมากๆ น้องชนะใจคนไทยทุกคน เป็นกำลังใจให้น้องกัน @annasnga_1o”

และก็ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ได้มีการโพสต์ว่า “หนูเก่งมาก”

นับเป็นกำลังใจจากรุ่นพี่นางงามที่น่าชื่นชม

มิสยูนิเวิร์ส 2022 เจ้าของ

ทรงพลังอย่างแรง “แอน จักรพงษ์” กับสปีชหยุดโลกบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2022

การแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 71 ณ นิวออร์ลีนส์ อเมริกา เสร็จสิ้นไปแล้ว คนจำนวนมาก โฟกัสไปที่ Miss Universe 2022 คนล่าสุด นั่นก็คือ “R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วย ในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ก็เกิดขึ้นกับองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) เพราะ ผู้ที่เป็นเจ้าของคนใหม่ก็คือ”คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์”

ซึ่งนับว่าเป็นหญิงคนแรกที่ครององค์กรนางงามจักรวาล รวมทั้ง บนเวทีแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ครั้งนี้ เธอก็ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ทรงพลัง และ นับเป็นสปีชหยุดโลก ซึ่งมั่นใจว่า จะโดนใจผู้หญิง รวมทั้ง ชาวโลกทุกคน โดยมีเนื้อหาว่า

“ฉันรักทุกคน ขอบคุณทุกคนที่มา เป็นเวลา 70 ปีแล้ว ที่องค์กรนางงามจักรวาลครอบครองโดยผู้ชาย หมดเวลายุคของผู้ชาย ผู้หญิง จะต้องเป็นผู้นำ ถึงเวลาของผู้หญิงที่จะขึ้นบังเหียน รวมทั้งเป็นผู้นำ ขอต้อนรับสู่แพลตฟอร์มใหม่ จะสนับสนุนพลังของหญิงทั่วโลก

นำโดยผู้หญิง โดยหญิงข้ามเพศ เพื่อผู้หญิงทุกคน เพื่อฉลองพลังแห่งสิทธิสตรีนิยม ความแตกต่างหลายทางวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจ สังคมที่ไม่ยอมทิ้งใครไว้ด้านหลัง ความเสมอภาคทางเพศ ความสวยงามแห่งมวลมนุษยชาติ เมื่อครั้งที่ฉันเกิดมาเป็นหญิงข้ามเพศ ฉันก็ถูกบูลลี่ และก็ ถูกคุกคามทางเพศ เคยถูกไม่ยอมรับจากสังคม

เพราะเหตุว่า เขาเหล่านั้น ไม่ต้องการโอบอุ้มความต่างกันหลากหลาย แต่ว่าคุณทราบไหม…ฉันรักคุณ จากส่วนลึกของหัวใจ เพื่อที่จะไม่ยอมแพ้ ฉันเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดรวดร้าวให้เป็นพลังอำนาจ

และก็ เปลี่ยนบทเรียนเหล่านี้ในชีวิต ให้กลายเป็นสติ แล้วก็ ปัญญา เวทีแข่งขัน Miss Universe จะช่วยยกระดับหญิงทุกคนให้เข้มแข็งมากพอ ดีพอ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และ ผู้หญิงจะไม่ถูกใช้เป็นวัตถุอีกต่อไป

นั่นก็เป็นที่มาของการที่ทำไม ฉันถึงได้แนะนำแนวความคิดนี้ ในฐานะของเจ้าของ ภาวะการเป็นผู้นำ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนับสนุนให้เกิดชุดคุณค่าที่ยั่งยืนขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส รวมทั้ง เป็นมรดกส่งต่อในฐานะแสงสว่างนำทางไปสู่ความก้าวหน้าในอนาคต”

โดยบรรยากาศระหว่างการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์นั้น เต็มไปด้วยเสียงร้องชื่นชมที่แอน จักรพงษ์ ขึ้นมากล่าวแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอให้ชาวโลกรับทราบ

จิ๊บ คีตภัทร โพสต์

"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

ผู้แสดงสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตนเอง ยืนยันไม่ใช่ เนื่องจากมาหาครอบครัว ที่สหรัฐฯ ลั่นดำเนินดคีแน่นอน ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

จิ๊บ คีตภัทร ข่าว

เป็นประเด็นร้อน สั่นสะเทือนแวดวงบันเทิง

ภายหลังที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมาอ้างถึง เปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อชายหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนชายหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ปัจจุบันมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวจัดเตรียมแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดชายหนุ่มนอกวงการ หลังจากขายคลิปตัวเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที เห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” จนกระทั่งทำให้เกิด การคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นเป็นคนไหนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” นักแสดงสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือไม่

ล่าสุด วันนี้ (13 เดือนมกราคม 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาอธิบายประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

รับรองว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะฟ้องตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้เจ้าตัว และก็ ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยกล่าวว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยแฟนคลับ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น และ ส่งแรงใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงเป็นอย่างมาก หลังก่อนหน้านี้ มีข่าวซุบซิบแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลายสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งคนไม่ใช่น้อยก็เดาไปเรื่อย และก็ ท้ายที่สุดผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกชื่อดัง จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า คือคนภายในคลิปฉาว ทำเอาเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร สวย

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกออนไลน์ มีผู้คนจำนวนมาก สอบถามมาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรอย่างไรบ้าง บ้างก็กล่าวว่าสวยเด่น อยากทราบงานก่อนหน้าที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้พวกเราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

เที่ยวบิน เที่ยวแรก

รัฐบาลยอมปรับเกณฑ์คุมโควิด นทท. ต่างชาติ ยกเลิกตรวจหลักฐานวัคซีน หลังเอกชนท่องเที่ยวไม่พอใจ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยออกมาว่าได้ยกเลิกมาตรการการตรวจ เอกสารการได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว หลังจากภาคการท่องเที่ยว ขอให้ทวน คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้โดยสารจำนวน 269 คน จากสาธารรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน แรก เดินทางถึงไทยแล้วเมื่อ 9 ม.ค. หลังจากจีนเปิดประเทศเมื่อ 8 ม.ค.

นี่เป็น ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดของมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นายอนุทิน เผยระหว่างการแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงบ่าย หลังจากมาตรการชุดใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศอื่น โดยผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างชาติจากอังกฤษ กลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ต่างแสดงความกังวลผ่านมาทาง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต, พังงา รวมทั้งกระบี่

นายอนุทิน ระบุถึงเหตุที่คณะกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พุทธศักราช 2558 มีมติยกเลิกการตรวจเอกสารการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะว่ามีความเห็นว่า มีการฉีดยาทั้งยังในไทยและก็จีนจำนวนมากแล้ว

รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งโลก ฉะนั้น การมุ่งเน้นการแสดงหลักฐานการฉีดยาจะก่อให้เกิดความไม่คล่องตัว

เที่ยวบิน สนามบิน

ส่วน เที่ยวบิน ฏแรกที่มาถึงไทย เป็นเที่ยวบิน MF833 สายการบินเซียเหมินแอร์ไลน์

เดินทางจากเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุทิน แล้วก็ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวฯ รมว. คมนาคม ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน กล่าวการันตีว่า มาตรการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนมีความเหมาะสม เน้นใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นด้วยหลักการเท่าเทียม

ไม่แบ่งแยกกระทั่งจะมีสถานการณ์จำเป็นจะต้อง รมว.สาธารณสุข กำหนดเหตุว่า วันนี้จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากจีน 15 เที่ยวบิน รวมนักท่องเที่ยว 3,465 คน คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยผ่านทางสนามบิน 7-10 ล้านคน

ภาคการท่องเที่ยวแล้วก็บริษัททัวร์ต่างชาติกังวลอะไรบ้าง

สาระสำคัญในหนังสือที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเสนอต่อรัฐบาล พล.อำเภอ ประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกรัฐผู้ปรึกษาราชการและรัฐผู้แนะนำว่ากระทรวงกลาโหม

ลงวันที่ 7 ม.ค. ได้สะท้อนความเห็นจากบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศโดยยิ่งไปกว่านั้นในทวีปยุโรป ที่แสดงถึงความกังวลอย่างสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย

บริษัทนำเที่ยวประเทศอังฤษ

การประกาศดังกล่าวดำเนินการฉุกเฉินเกินไป ควรจะมีระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากเริ่มเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน และบางทีอาจไม่สามารถนำใบรับรองการฉีดยามา ก็เลยจะก่อให้ถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องบินได้ มีความกังวลว่า ลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดยาจะไม่สามารถเดินทางได้ รวมทั้งบริษัทนำเที่ยว ต้องทำการคืนเงิน ยังไม่มีประกาศอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาล

บริษัทจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดยา ด้วยเหตุว่าเป็นการประกาศในตอนวันหยุดสุดสัปดาห์และมีผลบังคับใช้ทันทีในวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.
ในส่วนลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปแล้ว จากประกาศดังกล่าวทำให้ต้องยกเลิกรวมทั้งคืนเงินลูกค้า ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมโทรมทางธุรกิจ

บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี

เห็นว่าเป็นการออกเกณฑ์ดังกล่าว ทำให้เกิดปัญหาและก็ลดความมั่นใจและความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยวอย่างมาก มีการยกเลิกจากลูกค้ากว่า 1,000 รูมไนท์ แล้ว หลังมีเรื่องการเปลี่ยนมาตรการดังกล่าว มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาระหว่างบริษัททัวร์และก็ลูกค้า เนื่องจากมาตรการใหม่ของรัฐบาลไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินเมื่อถูกปฏิเสธการเดินทาง

บริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศส

ผู้ประกอบการนำเที่ยวมีความไม่พอใจ เนื่องจากระเบียบใหม่นับว่าไม่เข้าข่ายการคืนเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารถูกไม่ยอมรับการเดินทางโดยสายการบิน
บริษัทนำเที่ยวฝรั่งเศสได้จะหาทางทำ Force Majeure ในการยกเลิกการเดินทางมาไทยเพราะว่าความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลไทย

บริษัทนำเที่ยวจากรัสเซียและกลุ่ม CIS

ผู้ประกอบการนำเที่ยวจากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (อดีตสหภาพโซเวียต) ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ทำสัญญาแบบเช่าเหมาลำล่วงหน้า ขณะที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีทั้งคนที่ได้รับวัคซีนครบและไม่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่ง เมื่อมีมาตรการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องการข้อกำหนดและหลักปฏิบัติที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ

เที่ยวบิน อนุทิน

มาตรการก่อนหน้าที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง

ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม

หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 หากมีอาการทางเดินหายใจให้เลื่อนเดินทาง แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ

หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ

3 รัฐมนตรีต้อนรับ นทท. จีน เที่ยวบินแรก

เวลา 12.15 น. ของ 9 เดือนมกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข พร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬา จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว จากสาธารณประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาเมืองไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทางการจีน ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 เดือนมกราคม

สำหรับเที่ยวบินจากจีนที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในคราวนี้ คือ เที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน

ก่อนหน้าที่ผ่านมา นายอนุทินกล่าวว่า จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรกในเดือน เดือนมกราคม-มี.ค. 2566 มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน

โดยคาดการณ์ถึงจำนวนในแต่ละเดือน ได้แก่ เดือน มกราคม 60,000 คน ก.พ. 90,000 คน และก็ มี.ค. 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เพราะว่าปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด

มีระยะเวลาในการขอ ทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และก็รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองและก็เป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ